รายจ่ายเบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร ค่าปรับทางอาญา ภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ม.65 ตรี (6))

Published on 2 กุมภาพันธ์ 2561

      เบี้ยปรับ เป็นมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้เสียภาษีที่เสียภาษีไม่ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร เช่น ชำระภาษีต่ำไป เนื่องจากการคำนวณผิดพลาด หรือไม่ได้ชำระภาษีทำให้ต้องชำระภาษีเพิ่มเติม และต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับเป็นจำนวนหนึ่งเท่าหรือสองเท่าของเงินภาษีที่ต้องเสียตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ดี เบี้ยปรับอาจงดหรือลดได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี

      เงินเพิ่มภาษีอากร เป็นมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้เสียภาษีที่ไม่ชำระภาษีหรือนำส่งภาษีให้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาตามประมวลรัษฎากร เงินเพิ่มจะคิดจากจำนวนเงินภาษีที่ชำระขาดไปตามระยะเวลาที่ชำระล่าช้าคล้ายกับการคิดดอกเบี้ย อัตราเงินเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีโดยไม่รวมเบี้ยปรับ

      ค่าปรับทางอาญา เป็นค่าปรับกรณีที่ผู้เสียภาษีกระทำผิดซึ่งกฎหมายระบุโทษให้เป็นความผิดทางอาญา

      เดิมทีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 10/2528 วินิจฉัยว่า “เบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร ค่าปรับทางอาญา” ตามมาตรา 65 ตรี (6) มีความหมายอย่างแคบ กล่าวคือ หมายถึงเบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร ค่าปรับทางอาญาตามประมวลรัษฎากรเท่านั้น หรือกล่าวคือ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับทางอาญาเฉพาะกรณีกรมสรรพากรเรียกปรับเท่านั้นที่ไม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ แต่ถ้าเป็นเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าปรับทางอาญาตามกฎหมายภาษีอื่น เช่น เบี้ยปรับจากภาษีศุลกากร หรือเงินเพิ่มจากภาษีสรรพสามิต ผู้เสียภาษีสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

      อย่างไรก็ตามได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๐๙/๒๕๕๙ ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้ประกอบการได้นำค่าปรับอากรขาด (ศุลกากร) เงินเพิ่มศุลกากร และค่าปรับภาษีเพื่อมหาดไทย มาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ และเจ้าพนักงานประเมินได้พิจารณาเห็นว่า ค่าปรับเงินเพิ่มดังกล่าวไม่ควรนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายจึงได้แจ้งการประเมินภาษีไปยังผู้ประกอบการ และผู้ประกอบการได้อุทธรณ์การประเมินภาษีดังกล่าว ซึ่งในที่สุดแล้วศาลฎีกาได้วินิจฉับและมีคำพิพากษาว่า “ค่าปรับอาญาและเงินเพิ่มภาษีอากรตามมาตรา 65 ตรี(6) แห่งประมวลรัษฎากร มิใช่ค่าปรับอาญาและเงินเพิ่มตามประมวลรัษฎากรเท่านั้น แต่รวมถึงค่าปรับที่เป็นโทษทางอาญาและเงินเพิ่มภาษีอากรตามกฎหมายอื่นด้วย”

      ด้วยเหตุแห่งคำพิพากษาฎีกานี้ ทำให้ได้มีคำวินิจฉัยใหม่ของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 40/2560 ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560 ว่า เนื่องจากเบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร และค่าปรับทางอาญา เป็นการลงโทษผู้กระทำความผิด จึงไม่ควรให้นำมาลงเป็นรายจ่ายทางภาษีอีก เพราะจะเป็นการสนับสนุนบุคคลผู้กระทำความผิด ดังนั้น คำว่า เบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร และค่าปรับทางอาญา ตามมาตรา 65 ตรี (6) แห่งประมวลรัษฎากร ให้หมายความถึง เบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มภาษีอากร และค่าปรับทางอาญาตามกฎหมายภาษีอากรทุกประเภท และให้ยกเลิกคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 10/2528 เสีย

 

ที่มา: เวปไซด์กรมสรรพากร
[1] ประมวลรัษฏากร